แบบฝึกหัดที่ 1
เรื่อง
จุด เส้น สี แสง เงา รูปร่าง และรูปทรง
1.
ให้นักศึกษาบอกความรู้สึกที่มีต่อเส้นในลักษณะต่างๆ
ดังนี้
1.1
เส้นตรงแนวตั้ง…………………………………………………………….
1.2
เส้นตรงแนวนอน………………………………………………………….
1.3
เส้นตรงแนวเฉียง…………………………………………………………..
1.4
เส้นติดกัน………………………………………………………………….
1.5
เส้นโค้ง…………………………………………………………………….
1.7 ให้ความรู้สึกอย่างไร
1.10
ให้นักศึกษาสร้างงานศิลปะจากเส้นต่างๆ จำนวน 1
ภาพ
1.11 ให้นักศึกษา อธิบายว่าสีร้อน และสีเย็น
หมายถึงอะไรและประกอบด้วยสีอะไรบ้าง
1.12 ให้นักศึกษาวาดรูปโดยใช้ดินสอไล่น้ำหนักของแสงเงา
แบบฝึกหัดที่ 2
เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลปะและความงามตามธรรมชาติ
1. จงบอกประเภทของงานประติมากรรม
ตอบ 1.
ประติมากรรมแบบนูนต่ำ
2.ประติมากรรมแบบนูนสูง
3.ประติมากรรมแบบลอยตัว
2. เราสามารถแบ่งลักษณะงานของสถาปัตยกรรมออกได้เป็นกี่แขนง
อะไรบ้าง พร้อมทั้งยกตัวอย่าง
ตอบ
เราสามารถแบ่งลักษณะงานของสถาปัตยกรรมออกได้เป็น 3 แขนง คือ 1.สถาปัตยกรรมออกแบบก่อสร้าง เช่น
การออกแบบสร้างตึกอาคาร บ้านเรือน
2.ภูมิสถาปัตย์ เช่น การออกแบบวางผังเมือง จัดสวน 3.สถาปัตยกรรมผังเมือง เช่น
การออกแบบบริเวณเมืองให้มีระเบียบ มีความสะอาด
3. การวิเคราะห์งานศิลปะ หมายถึง
ตอบ
การพิจารณาแยกแยะศึกษาองค์รวมของงานศิลปะออกเป็นส่วน ๆ ทีละประเด็น
ทั้งในด้านทัศนธาตุ องค์ประกอบศิลป์ และความสัมพันธ์ต่าง ๆ
ในด้านเทคนิคกรรมวิธีการแสดงออก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประเมินผลงานศิลปะว่ามีคุณค่าทางด้านความงาม
ทางด้านสะระ และทางด้านอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร
4. การวิจารณ์งานศิลปะ หมายถึง
ตอบ
การแสดงออกทางด้านความคิดเห็นต่อผลงานทางศิลปะที่ศิลปินสร้างสรรค์ขึ้นไว้
โดยผู้วิจารณ์ให้ความคิดเห็นคามหลักเกณฑ์และหลักการของศิลปะ
ทั้งในด้านสุนทรียศาสตร์และสระอื่น ๆ
ด้วยการติชมเพื่อให้ได้ข้อคิดนำไปปรับปรุงพัฒนาผลงานศิลปะ
หรือใช้เป็นข้อมูลในการประเมินตัดสินผลงาน และเป็นการฝึกวิธีดู วิธีวิเคราะห์
คิดเปรียบเทียบให้เห็นคุณค่าในผลงานศิลปะชิ้นนั้น ๆ
5. กลุ่มที่ยึดรูปธรรม (REALISTIC) หมายถึง
ตอบ
กลุ่มที่ยึดรูปแบบที่เป็นจริงในธรรมชาติมาเป็นหลักในการสร้างงานศิลปะ
สร้างสรรค์ออกมาให้มีลักษณะคล้ายกับกล้องถ่ายภาพ
หรือตัดทอนบางสิ่งออกเพียงเล็กน้อย
ซึ่งกลุ่มนี้ได้พยายามแก้ปัญหาให้กับผู้ดูที่ไม่มีประสบการณ์ทางศิลปะ
และสามารถสื่อความหมายระหว่างศิลปะกับผู้ดูได้ง่ายกว่าการสร้างสรรค์ผลงานในลักษณะอื่น
ๆ
แบบฝึกหัดที่ 3
เรื่อง ธรรมชาติกับทัศนศิลป์
คำสั่ง
ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มทำการศึกษาค้นคว้าและจัดทำชิ้นงาน/รายงาน
ตามหัวข้อที่ครูกำหนด กลุ่มละ 1 หัวข้อ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ออกแบบเครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติที่ใช้ในการตกแต่งร่างกาย
เช่น การออกแบบเสื้อผ้า เครื่องประดับ
กลุ่มที่ 2 ออกแบบตกแต่งที่อยู่อาศัยภายในบ้าน เช่น ห้องนอน
ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องครัว ห้องน้ำ โดยการวาดภาพหรือถ่ายภาพ
หรือใช้วัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นภาพ/ชิ้นงาน
กลุ่มที่ 3 ออกแบบสำนักงาน ห้องทำงาน โดยการวาดภาพ
หรือใช้วัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นภาพ/ชิ้นงาน
กลุ่มที่ 4 ออกแบบตกแต่งสวนภายในบ้าน โดยการวาดภาพหรือถ่ายภาพ
หรือใช้วัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นภาพ/ชิ้นงาน
กลุ่มที่ 5 ออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ โดยการวาดภาพหรือถ่ายภาพ
หรือใช้วัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นเป็นภาพ/ชิ้นงาน
กลุ่มที่ 6 ออกแบบสวนสาธารณะ โดยการวาดภาพหรือถ่ายภาพหรือใช้วัสดุต่างๆ
มาประดิษฐ์เป็นภาพ/ชิ้นงานแล้วนำเสนอผลงาน/ชิ้นงาน
พร้อมทั้งคำอธิบายหรือคำวิจารณ์ตามหลักการทางทัศนศิลป์ หน้าชั้น กลุ่มละ 5-10 นาที
แบบฝึกหัดที่ 4
เรื่อง
คุณค่าของดนตรีกับการดำรงชีวิต
คำสั่ง
ให้ผู้เรียนทำการศึกษา
ค้นคว้าเพิ่มเติมในเรื่องต่อไปนี้
1.
เครื่องดนตรีไทย แบ่งออกเป็นกี่ประเภท และมีประเภทอะไรบ้าง พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ อย่างน้อยประเภท ละ3 ชนิด
2.
จงอธิบาย
ความแตกต่างระหว่างเครื่องดนตรีไทย และเครื่องดนตรีสากล มาพอเข้าใจ
3.
วงดนตรีสากลแบ่งออกเป็นกี่ประเภท และมีประเภทใดบ้าง
แบบฝึกหัดที่ 5
เรื่อง ดนตรีสากลประเภทต่างๆ
ประวัติ ภูมิปัญญาทางดนตรีสากล
คำสั่ง ให้ผู้เรียนจัดทำรายงาน
เรื่องดนตรีสากลประเภทต่างๆ และประวัติภูมิปัญญาทางดนตรีสากล
โดยกำหนดกรอบโครงร่างรายงาน ดังนี้
1. ส่วนประกอบของรายงาน
1.1 ปก
1.2 คำนำ
1.3 สารบัญ
1.4 เนื้อ เรื่องดนตรีสากลประเภทต่างๆ
และประวัติภูมิปัญญาทางดนตรีสากล พร้อมภาพประกอบ
1.5 ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
1.6 เอกสารอ้างอิง
2. จัดส่งรายงานส่งตามที่กำหนด
แบบฝึกหัด ที่ 6
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
คำสั่ง ให้ผู้เรียนตอบคำถามจากหัวข้อต่อไปนี้
1.
นาฎยนิยม หมายถึง
2. จงอธิบายความหมายของคำว่า
ฟ้อนรำ 1 ดนตรี 1 ขับร้อง 1 หมายถึงอะไร
3. สุนทรียะ หมายถึง
4. รากฐานของการเกิดนาฎศิลป์ในรูปแบบของการฟ้อนรำมีการพัฒนามาจากด้านใดบ้าง
แบบฝึกหัด ที่ 7
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
คำสั่ง ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มทำการศึกษาค้นคว้า
ตามหัวข้อต่อไปนี้แล้วนำผลจากศึกษาค้นคว้ามาสรุปเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อย่างน้อย กลุ่มละ 15 นาที
กลุ่มที่ 1 นาฎศิลป์ประเทศพม่า
กลุ่มที่ 2 นาฎศิลป์ประเทศกัมพูชา
กลุ่มที่ 3 นาฎศิลป์ประเทศมาเลเซีย
กลุ่มที่ 4 นาฎศิลป์ประเทศเกาหลี
กลุ่มที่ 5 นาฎศิลป์ประเทศอินโดนีเชีย
แบบฝึกหัด ที่ 8
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
คำสั่ง ให้นักศึกษาตอบคำถามในหัวข้อต่อไปนี้
1.
ละครสร้างสรรค์ หมายถึงอะไร
2.
กิจกรรมจูงใจ หมายถึงอะไร
และมีกี่ประเภทอะไรบ้าง
3.
กิจกรรมการเตรียมทักษะละครของผู้นำกิจกรรมต้องทำอย่างไร
4.
กิจกรรมละครมีการจัดการอย่างไรอธิบายมาพอเข้าใจ
5.
จุดหมายของการทำละครสร้างสรรค์ต่างจากการสร้างละครเวทีอย่างไร
6.
จินตนาการ
คืออะไร
7.
ความคิดสร้างสรรค์ คืออะไร
8.
ละครสร้างสรรค์มีประโยชน์ในด้านใดบ้างอธิบายมาพอเข้าใจ
แบบฝึกหัดที่ 9
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
เรื่อง นาฏศิลป์ สุนทรียะทางนาฏศิลป์
คำสั่ง ให้นักศึกษาตอบคำถามในหัวข้อต่อไปนี้
1.
ละครร้องมีความแตกต่างจากละครพูดอย่างไร
จงอธิบาย
2.
ละครสากลแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
3.
ละครอิงนิยาย (Romance) เป็นละครประเภทใด
4.
จงบอกองค์ประกอบของละคร
5.
ให้ผู้เรียนอ่านเรื่อง”ปลาบู่ทอง”
แล้ววิเคราะห์ วิจารณ์ ตามคำถามในข้อ 5.1 – 5.4
มีชายคนหนึ่งชื่อ นายทอง เป็นชาวบ้านเมื่อพาราณส์ มีภรรยา
2 คน ชื่อนางขนิษฐาและขนิษฐี นางชนิษฐาเป็นผู้มีจิตใจเมตตา อารี
มีลูกสาวชื่อนางเอื้อย ซึ่งเป็นเด็กสาวที่มีจิตใจดีงาม ส่วนนางขนิษฐี มีจิตใจหยาบกระด้าง
อิจฉาริษยา มีลูกสาวชื่ออ้ายกับอี ซึ่งมีจิตใจคล้ายกับแม่ มักจะกลั่นแกล้งลูกของนางขนิษฐาอยู่เสมอๆ
ต่อมานายทองออกไปจับปลา ได้ปลาบู่มาตัวหนึ่ง
จึงให้นางขนิษฐาทำต้มยำปลา แต่ด้วยความเมตตานางจึงปล่อยปลาไป
นายทองจึงบังคับให้นางขนิษฐาไปหาปลาแต่นางก็ประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตาม
และด้วยความดีจึงเกิดเป็นปลาบู่ทอง เพื่อที่จะอยู่ใกล้ๆ ลูกคือนางเอื้อย
ต่อมาก็โดนนางขนิษฐีทำลายและได้ไปเป็นต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง
นางเอื้อยจึงมีโอกาสไปเฝ้าแม่ทุกวัน
ต่อมาพระเจ้าพรหมทัตผู้ครอบครองกรุงพาราณาสี
เสด็จออกหัวเมืองก็พบกับต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง และมีความประสงค์จะนำปลูกที่ในวัง
แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ นางขนิษฐีและนางอ้ายก็อ้างว่าเป็นเจ้าของต้นโพธิ์
แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ต่อมานางเอื้อยก็ขอให้แม่ไปอยู่ในวังและตนเองก็ได้รับการยกย่องเป็นมเหสี
นางขนิษฐีและลุกสาวเกิดความอิจฉา จึงไปบอกให้นางเอื้อยว่าพ่อเจ็บหนัก
แล้ววางแผนให้นางเอื้อยเดินข้ามสะพานไม้ที่วางหลอกไว้จนเอื้อยตกม้าตายแล้วให้นางอ้ายไปเข้าวังแทน
เมื่อนางเอื้อยตายไปแล้วไปเกิดเป็นนกแขกเต้า
และกลับเข้าวังไปตัดพ้อต่อพระเจ้าพรหมทัต พระเจ้าพรหมทัตทรงเอาใจใส่นกแขกเจ้ามาก
จนนางอ้ายอิจฉาและคิดหาทางจำกัด
นกแขกเต้าหนีออกจากวังไปพบฤๅษีในป่า
และชุบชีวิตให้กลายเป็นเอื้อยเหมือนเดิมและยังได้เสกลูกสาวของนางเอื้อยชื่อว่าลบ
เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงาให้ด้วย
ต่อมานางลบสงสัยว่าใครเป็นพ่อ จึงไปตามแม่
นางเอื้อยจึงเล่าเรื่องราวต่างๆ
ให้ฟังและนางเอื้อยได้ร้อยพวงมาลัยฝากไปถวายพระเจ้าพรหมทัตด้วย
พระเจ้าพรหมทัตก็รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือนางเอื้อย และได้ทราบเรื่องราวจากลบที่นางขนิษฐีและนางอ้ายก่อกรรมทำเข็ญไว้กับเอื้อย
จึงสั่งประหารชีวิต แต่เอื้อยของพระราชทานอภัยโทษด้วย
ให้ขับไล่ออกจากนอกวังและให้ถือศีลบำเพ็ญความดีตลอดชีวิต
ส่วนนางเอื้อยก็อยู่กับต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองอย่างมีความสุขตลอดไป
5.1 นางเอื้อยเป็นคนอย่างไร
5.2 นางขนิษฐา เป็นคนอย่างไร
5.3 ถ้าท่านจะเป็นบุคคลในเรื่อง จะเลือกเป็นใคร
เพราะอะไร
5.4 ท่านอ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรจากเรื่องนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น